นับว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะในการเลี้ยงจระเข้ให้ได้ผลดีมากที่สุด การเลือกพันธุ์และสายพันธุ์จระเข้เป็นเรื่องจำเป็นยิ่งนัก ซึ่งมีวิธีการเลือกได้ดังนี้ ประเทศไทยเรานั้นเป็นประเทศที่มีภูมิอากาศร้อนและชื้นมาก เนื่องจากอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร ซึ่งนับว่าเหมาะสมในการเลี้ยงจระเข้มากที่สุด
ประเทศไทยได้เปรียบในทางภุมิศาสตร์มากเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศที่มีอากาศหนาวอย่างอเมริกา ยุโรป ออสเตรเลีย ย่อมเป็นรองประเทศไทยทั้งนั้นในการเลี้ยงจระเข้
อีกประการหนึ่งจระเข้ไทยเรานั้นมีทั้งพันธุ์น้ำจืดและพันธุ์น้ำเค็ม มีลักษณะของหนังที่สวยงามมาก อยู่ในระดับชั้นดีเรียกว่าคลาสสิค เป็นลักษณะของหนังที่ยอดเยี่ยม ทำการฟอกได้ง่าย แม้จะมีอายุมากก็ยังคงฟอกได้ง่ายเป็นส่วนมาก แม้จระเข้ไทยเราจะไม่มีคุณภาพที่ยอดเยี่ยมทุกตัวก็ตาม แต่เป็นส่วนมากแล้วจระเข้เมืองไทยก็จัดได้ว่าเป็นยอดเสมอ เพราะในปัจจุบันมีการเลี้ยงที่ถูกต้อง มีการคัดสายพันธุ์ที่ดีมากยิ่งขึ้นจากผู้เลี้ยงนั่นเอง ผู้เลี้ยงมีความรู้เรื่องในการเลี้ยงจระเข้มากยิ่งขึ้น จึงส่งผลดีให้แก่จระเข้ไทยมากมาย การเลี้ยงจระเข้ที่ดีนั้น นอกจากบ่อเลี้ยงที่ถูกต้องแล้ว ในเรื่องของอาหารก็จะต้องเป็นไปอย่างถูกต้องด้วย อาหารที่ดีของจระเข้ก็ต้องคำนึงถึง
ให้มาก มิฉะนั้นแล้วการเลี้ยงจระเข้อาจจะไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร และบางทีจระเข้ก็อาจจะตายเสียก่อนตั้งแต่ยังเล็กๆก็ได้เช่นเดียวกัน ลองมาพิจารณาดูการให้อาหารจระเข้ที่ถูกต้องกันดีกว่า อัตราการให้อาหารจระเข้ที่ดี ถูกต้อง พึงปฏิบัติดังต่อไปนี้
จระเข้อายุ 1 เดือนถึง 3 เดือน
ให้อาหาร ร้อยละ 100 ซึ่งก็ได้แก่ลูกปลาหรือลูกกบที่มีชีวิตเป็นๆอยู่
จระเข้อายุ 4 เดือนถึง 6 เดือน
ให้อาหาร ร้อยละ 30 ซึ่งได้แก่ลูกปลาที่มีชีวิตหรือลูกกบที่มีชีวิตร้อยละ 70 นอกจากนั้นก็เป็นเนื้อไก่ เนื้อหมูที่ไม่มีมันติดอยู่ รวมผสมกับวิตามิน
จระเข้อายุ 7 เดือนถึง 12 เดือน
ให้อาหาร ร้อยละ 100 ซึ่งก็ได้แก่เนื้อไก่ เนื้อหมูที่ไม่มีมันติดอยู่ รวมผสมกับวิตามิน
จระเข้อายุ 13 เดือนถึง 36 เดือน
ให้อาหาร ร้อยละ 30 ซึ่งได้แก่โครงไก่สด เอามาผสมรวมกับวิตามินร้อยละ 10 เป็นปลาน้ำเค็ม เช่นปลาข้างเหลืองและอื่นๆอีก ร้อยละ 60 เป็นไก่ติดกระดูก ซึ่งเอาไขมันออกไปแล้ว รวมกับเครื่องในด้วย เรียกว่าใช้ไก่ได้ทั้งตัวควักเอาเครื่องในออกและไม่เอามัน เอาเพียงกระดูกกับเนื้อไก่เท่านั้น
ในช่วงที่ขุนจระเข้ ซึ่งมีอายุตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป อาหารเสริมที่ดีของจระเข้ขุนก็ต้องเป็นตับไก่ ซึ่งสมควรให้เดือนละ 2 ครั้งก็เพียงพอแล้ว เรื่องอาหารจึงต้องสำคัญมาก จำเป็นจะต้องให้อย่างดีและสม่ำเสมออย่างที่แนะนำ เพื่อให้จระเข้มีความเจริญเติบโตที่ดีที่สุด นอกจากนี้แล้ว เรื่องของน้ำมีความสำคัญมากในการเลี้ยงจระเข้ทั้งหลายทั่วไป เพราะจระเข้นั้นมักชอบอยู่ในน้ำเป็นส่วนใหญ่ นานๆจึงขึ้นบกเสียครั้งหนึ่ง จึงต้องระวังเรื่องน้ำที่เลี้ยงจระเข้เอาไว้ให้ดีที่สุด
น้ำที่เอามาเลี้ยงจระเข้ต้องสะอาดดี จระเข้จึงจะมีความสุขกับที่สะอาด หนังของจระเข้ก็จะสวยงามมีคุณภาพที่ดีเยี่ยม ราคาดียิ่งขึ้น การเปลี่ยนน้ำ การถ่ายเทน้ำมีความสำคัญ มีความหมายมาก จะต้องมีแหล่ง น้ำที่ดีอยู่ใกล้ ๆ กับบ่อเลี้ยง จระเข้เอาไว้ใช้ประโยชน์ อาจจะเป็นแม่น้ำ ลำคลอง แหล่งเก็บกักน้ำ หนองน้ำ ลำห้วย ซึ่งอยู่ไม่ห่างไกลกัน สะดวก เหมาะสมในการสูบน้ำหรือนำเอาน้ำนั้นมาเปลี่ยนได้เสมอ แต่ก็จะต้องระมัดระวังในเรื่องความของน้ำที่มีอยู่ด้วย
มีเชื้อโรคอะไรอยู่ด้วยหรือเปล่า อาจจะสร้างความเจ็บป่วยให้จระเข้ที่เลี้ยงอยู่ได้ ซึ่งอาจจะทำให้ส่วนของหนังจระเข้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่เสียหายได้ จะต้องคำนึงถึงให้มาก จะต้องตรวจสอบให้ดี หรืออาจจะมีแหล่งพักน้ำเอาไว้ก่อนอื่น ไม่ใช่สูบเอาน้ำมาเลยทันทีนั้น เพราะหากเกิดปัญหาขึ้นมาก็จะแก้ไขลำ บาก
บ่อพักน้ำจึงเกิดความสำคัญขึ้นมาอีกอย่างหนึ่ง พักน้ำเอาไว้ก่อนจากแดดเอาไว้ สังเกตความเปลี่ยนแปลงของน้ำที่เป็นอยู่ว่าปกติดีหรือไม่อย่างไร ซึ่งจะทำให้เชื้อโรคที่มีอยู่หมดไปได้ ใช้เวลาพักน้ำเอาไว้สัก 1 สัปดาห์ก็จะดีมากจึงปล่อยน้ำเข้ามาในบ่อเลี้ยง ซึ่งสูบน้ำเดิมออกไปหมดแล้ว เปลี่ยนน้ำได้อย่างดีมีคุณภาพ เพื่อให้จระเข้ที่เลี้ยงเอาไว้ได้รับน้ำที่สะอาดเสมอ
ในปัจจุบันนี้เกษตรกรที่นำเอาจระเข้ไปเลี้ยงนั้น กำหนดให้เลี้ยงกันครอบครัวละ 50 ตัว ก็มี 100 ตัวก็มี ทำให้ได้ผลดี เพราะจระเข้มีความเจริญเติบโตได้ดีมาก จากตัวเลขที่ฟาร์มเลี้ยงจระเข้ขนาด 1 เมตร ถึง 1.80 เมตร จะต้องให้เวลา 2 ปี ถึง 2 ปีครึ่ง แต่ตัวเลขในการเลี้ยงของเกษตรอยู่ที่เพียง 1 ปี 6 เดือนเศษเท่านั้น ต้องคำนึงว่าต้นทุนจะแตกต่างกันมาก
เรื่องนี้ก็อยู่ที่ท้องถิ่นที่เลี้ยง ภูมิประเทศ อาหารดี หาได้สะดวกหรือไม่อย่างไร หากหาได้ง่ายต้นทุนก็จะถูกลงมากมาย เกิดผลดีต่อผู้เลี้ยงเข้าไปอีก อย่างแถวภาคตะวันออกนั้นอาหารดี สมบูรณ์ อากาศดี สิ่งแวดล้อมดี จระเข้ที่เลี้ยงก็จะเจริญเติบโตได้ดี ในภาคอีสานหรือภาคตะวันออกเฉียงเหนือก็เลี้ยงจระเข้ได้ดี ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฟาร์มเลี้ยงไก่กันอยู่ไม่น้อยเลย ไก่ตายก็หาซื้อได้ง่าย หมูตายก็มี เอามาชำแหละ เอาเนื้อที่ไม่ติดมันมาเลี้ยงจระเข้ก็ไม่ยาก สามารถลดต้นทุนอาหารจระเข้ลงไปได้อีก ปัญหาเรื่องนี้อาจจะไม่มี เพราะเมื่อเลี้ยงปลาในบ่อได้เราก็เลี้ยงจระเข้ได้เช่นกัน
ภาคอีสานเลี้ยงปลาในบ่อกันอยู่แล้ว จึงเลี้ยงจระเข้ในบ่อได้ด้วย ในการให้เกษตรกรเอาจระเข้ไปเลี้ยงแล้วนำมาขายคืนให้นั้น ปรากฏว่ามีเกษตรกรที่เลี้ยงจระเข้จากจังหวัดตราดรายหนึ่งเอามาขายคืนให้ทางศรีราชาฟาร์ม (เอเชีย) จำกัด ปรากฏว่าเลี้ยงไปได้ในเวลาเพียง 1 ปีกับ 3 เดือนเศษเท่านั้น เอามาขายคืน 30 ตัว ที่รับจระเข้เอาไป 100 อีกประมาณ 3 เดือน ก็จะเอามาขายคืนจระเข้ที่เหลือทั้งหมดอีก ได้ราคาดีมากถึงตัวละ 8,000 บาทโดยเฉลี่ย
รับเอาไปเลย 240,000 บาทและที่เหลืออีก เป็นเงินใกล้ๆหลักล้านบาททีเดียว นับว่าไม่เลว นอกจากนี้แล้ว หากเกิดปัญหาต่างๆ ที่มีอยู่ ขาดเงิน มีปัญหาเรื่องการเวนคืนที่ดิน หรือปัญหาต่างๆที่มีอยู่ ขาดเงินทุน หรือปัญหาที่ทำให้การเลี้ยงจระเข้เกิดขึ้นมาก็สามารถปรึกษาหารือได้ทั้งสิ้น เพื่อให้การเลี้ยงจระเข้ดำเนินไปด้วยดีและได้ผล เกิดผลดีทั้งสองฝ่าย เกษตรกรผู้เลี้ยงจระเข้ที่รับเอาจระเข้ไปจากฟาร์มตั้งแต่เล็กๆแล้ว เอามาขายคืนเมื่อเลี้ยงจระเข้ไปจนเจริญเติบโตได้มาตรฐานแล้ว ย่อมไม่ทางขาดทุนเลย เพราะราคาที่ฟาร์มมอบให้นั้นน่าสนใจมาก
ต้นทุนในการแลกเนื้อก็ต้องถือว่ากินน้อยกว่าไก่ การเลี้ยงก็ไม่มีอะไรต้องยุ่งยาก ไม่ต้องดูแลอะไร ปล่อยเอาไว้เฉยๆ ให้อาหารตามกำหนด ไม่ยุ่งยากมาก อย่าไปยุ่งมากเป็นเรื่องที่ดีกว่าไปยุ่งกับจระเข้มาก ปล่อยให้เขาอยู่อย่างเงียบ สงบ แล้วค่อยเอาผลดีจากจระเข้ จึงเลี้ยงง่ายกว่าเลี้ยงควาย เพราะเลี้ยงควายจะต้องดูแลมัน ต้องเฝ้าเวลามันออกไปหากิน ต้องต้อนเข้าคอก ต้องสุ่มไฟไล่ยุงเหลือบให้มันอีก สารพัดอย่างที่จะต้องทำ
ต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคให้มัน แต่เลี้ยงจระเข้นี้ไม่ต้องฉีดวัคซีนให้จระเข้เลย ไม่ต้องมีการซื้ออาหารที่นำเข้ามาเพื่อเลี้ยงจระเข้อีกด้วย เอาอาหารสดๆที่มีอยู่ในบ้านเมืองเรานี้เองเลี้ยงก็โตวันโตคืนแล้ว อาหารสดๆพวกนี้สามารถหาได้ในชนบททั้งหลายด้วย เสียเวลาเพียง 5 นาที ในการเอาอาหารมาให้กิน
มีจระเข้อยู่ 100 ตัวสามารถเสียเวลาให้อาหารจระเข้เพียง 60 นาทีเท่านั้น หมายถึงเอาอาหารเสียบไม้ยื่นไปให้เขากิน แต่หากโยนเอาอาหารลงไปให้ในบ่อให้กินก็ไม่ต้องเสียเวลามาก เพียง 10 นาทีก็เรียบร้อยแล้ว เลี้ยงจระเข้ไม่ยาก แต่อาจจะใช้เวลาเลี้ยงยาวนานพอสมควรจึงจะขายได้เงิน ซึ่งก็คุ้มแสนคุ้มมาก สนใจเรื่องการเลี้ยงจระเข้ไม่ยุ่งยาก แต่จะต้องเข้าใจและรู้นิสัยจระเข้เอาไว้ การเลี้ยงจึงจะได้ผลดีมาก
วิธีการเลี้ยงจระเข้ก็แปลกดีเหมือนกัน
การเลี้ยงจระเข้ในแต่ละวันนั้นไม่จำเป็นจะต้องให้เวลามากเลย ส่วนที่ดินที่มีอยู่เพื่อการเลี้ยงก็ไม่ยุ่งยากอะไร เพราะที่ว่างระหว่างเล้าไก่ คอกหมู ที่ว่างระหว่างโกดังหรืออะไรก็ตาม สามารถเลี้ยงจระเข้ได้ทั้งนั้น ซึ่งง่ายมาก ที่ดินว่างๆอยู่เพียง 1 งานก็สามารถเลี้ยงจระเข้ได้มากมายถึง 100 ตัวทีเดียว และแน่นอนเนื้อที่ว่างประมาณ 1 ไร่ ก็สามารถเลี้ยงจระเข้ได้มากมายถึง 500 ตัวได้
อย่างไรก็ตาม การลงทุนที่อาจจะสูงพอสมควรก็ได้แก่การสร้างบ่อเลี้ยงนั่นเอง รวมทั้งพันธุ์จระเข้อีกด้วย ค่าสร้างบ่อเลี้ยงตกบ่อละ ประมาณ 1,000 บาท เป็นบ่อเลี้ยงไม่เกิน 2 ตารางเมตร เงินทุนตกรุ่นละ 5,000 บาท รุ่นต่อไปลดเหลือ 4,000 บาท การขายจระเข้ในครั้งแรกนั้นจะได้เงินทุนคืนมาทั้งหมดทันที คือ จระเข้จะต้องมีความยาวถึง 1.80 เมตร จะได้หนังท้องมาประมาณ 25 นิ้ว ซึ่งทางฟาร์มมีเกณฑ์การซื้อคืน 2 อย่าง คือเมื่อจระเข้น้ำหนักตัว 25 กิโลกรัม รับซื้อคืนแล้วในเวลาที่เป็นๆอยู่ในราคา 120 บาท ส่วนหนังท้องจระเข้รับคืนนิ้วละ 200 บาท ถ้าเป็นเกรด A หากได้ 25 นิ้ว ก็จะได้ราคามาถึง 5,000 บาท รวมแล้วจะได้ราคาประมาณ 8,000 บาท ทีเดียว นับว่าเป็นราคาที่ไม่เลวเลย ประโยชน์ของการเลี้ยงจระเข้นั้นนับว่าดีมาก สามารถนำเอาเงินตราต่างประเทศเข้ามาในประเทศได้อย่างดีเยี่ยม โดยเฉพาะเครื่องหนังจระเข้ที่มีมูลค่าไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 หากเป็นหนังดิบก็เป็นราคาอีกราคาหนึ่ง แต่เมื่อเป้นหนังที่ฟอกสมบูรณ์แล้วราคาก็จะสูงมากยิ่งขึ้น แล้วก็เมื่อผลิตออกมาเป็นกระเป๋า เป็นเข็มขัด เป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ แล้วราคาก็ยิ่งแพงมากต่อไปอย่างมากทีเดียว
หนังจระเข้ที่เอามาผลิตเป้นอะไรต่อมิอะไรแล้วก็เป็นหนังจระเข้ที่มีคุณค่า มีราคาสูงมาก เป็นที่นิยมของชาวโลกทีเดียว ไม่มีคำว่า ผลิตหนังจระเข้ออกมาแล้วขายไม่ออกหรือไม่มีผู้ใดต้องการซื้อ มีแต่ไม่รู้จะเอาหนังจระเข้ที่ไหนมาขายให้ผู้ที่ต้องการซื้อมากกว่า ในทุกวันนี้มีการเอาหนังจระเข้ที่เป็นหนังดิบและหนังจระเข้ที่ฟอกแล้วส่งออกพอสมควร ซึ่งจะต้องมีการส่งออกให้มากกว่านี้อีกมาก
จึงมีการส่งเสริมให้มีการเลี้ยงจระเข้กันให้มากยิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งทางศรีราชาฟาร์ม(เอเชีย)จำกัด ต้องการเช่นนี้จริงๆ เพราะมองเห็นตลาดอยู่แล้ว
จระเข้ นับว่าเป็นสัตว์เศรษฐกิจชั้นดีอย่างหนึ่งไม่แพ้สัตว์เศรษฐกิจ อื่นๆเลย ทางฟาร์มยังต้องการให้มีการเซ็นสัญญาประกันการรับซื้อคืนจระเข้ให้กับสมาชิกทุกๆรายอย่างเป็นธรรม เพื่อความน่าเชื่อถือและเป็นการประกันอย่างยุติธรรมเข้าใจกันดีทั้งสองฝ่าย
ที่ทำเช่นนี้ได้ก็เพราะศรีราชาฟาร์ม(เอเชีย)จำกัด มีการแปรรูปจระเข้อย่างครบวงจรนั่นเอง ไม่มีปัญหาอะไรที่เกิดขึ้นได้ มีการทำหน้าที่ครบวงจรจริงๆ ทั้งจากการฟอกหนัง โรงชำแหละจระเข้ที่สมบูรณ์แบบ ถูกต้องตามหลักวิชาการ ตลอดไปจนกระทั่งถึงการแปรรูปผลิตภัณฑ์อีกด้วย ทางฟาร์มแห่งนี้จะกระจายลูกจระเข้ออกไปประมาณ 2 ปีเศษ เริ่มจากปี พ.ศ. 2540 ทางฟาร์มได้ส่งลูกจระเข้ขนาดความยาว 1 ฟุต ไปให้เกษตร พอปี พ.ศ. 2541 ลูกจระเข้ก็จะมีความยาวเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 1 เมตร
เพื่อให้เกษตรกรย่นระยะเวลาในการเลี้ยงลงมา การเลี้ยงจระเข้บ่อเลี้ยงเดี่ยวนั้นที่ดีที่สุด ลงทุนแล้วคุ้มค่ามากที่สุด ซึ่งอาจจะลงทุนแพงพอสมควร แต่ก็คุ้มเกินคุ้ม เลี้ยงจระเข้ไปได้เรื่อยๆหลายๆรุ่นทีเดียว และก็อย่าลืมว่าเพียงรุ่นแรกก็ได้ทุนคืนพร้อมกับผลกำไรด้วยแล้วแน่นอนที่สุดด้วย นับว่าเป็นการย้ำของบริษัท ศรีราชาฟาร์ม(เอเชีย)จำกัด ด้วยความมั่นใจยิ่ง เพราะบอกด้วยว่าหนังเกรด A นั้น ผลิตออกมามากมายก็ขายได้เสมอ ไม่มีคำว่าขายไม่ได้ ขายไม่ออก
ขอให้เป็นหนังจระเข้เกรด A จะไม่มีปัญหาอะไรเลย ในปัจจุบันนี้ทางฟาร์มจระเข้จะคัดเลือกลูกฟาร์มให้เลี้ยงแบบบ่อเดี่ยวเท่านั้น สำหรับบ่อรวมซึ่งเกิดปัญหาของหนังที่มักเกิดปัญหาริ้วรอยที่ทำให้ราคาไม่เป็นไปตามที่ต้องการ เพราะมองดูแล้วไม่คุ้ม แนวโน้มในด้านการตลาดต่างประเทศนั้นนับว่าเป็นเรื่องที่ที่เกษตรกรผู้เลี้ยงจะต้องสนใจมาก เพราะว่าเป็นเรื่องความมั่นคงและมีความหมายในรายได้ที่จะเกิดขึ้น จะต้องเป็นไปอย่างดีไม่มีปัญหาอันใดเลย ซึ่งก็ยิ่งไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง เพราะผู้บริโภคทั้งหลายยังต้องการอยู่เสมอไม่เสื่อมคลายไปไหนในความนิยม
ในเมื่อมีผู้บริโภคในระดับไม่เกี่ยงงอนในราคาที่สูงของผลิตภัณฑ์จากหนังจระเข้อยุ่ทั่วโลกนี้แล้ว ก็ไม่น่าห่วงนัก ถ้าหากว่าหนังจระเข้มีความเป็นตะปุ่มตะป่ำอยู่แสดงว่าเป็นหนังจระเข้ที่ไม่คลาสสิคมีความยืดหยุ่นและคงทน จะต้องคัดออกเป็นหนังจระเข้ที่ด้อยราคากว่าหนังจระเข้ที่เป็นหนังคลาสสิคแน่นอน เอามาฟอกแล้วก็ถือว่าเป็นหนังที่ไม่สวยงามเท่าที่ควร อีกอย่างหนึ่งที่น่าจะคิดถึงอย่างมากก็ได้แก่ การผลิตในภูมิภาคนี้ที่สำคัญที่สุดจะต้องมีการผลิตที่สูงพอในการป้อนตลาดได้ตลอดทั้งปี ถ้าเกิดมีการผลิตที่น้อยไม่เพียงพอแก่ตลาดก็จะทำให้เกิดไม่สนใจในแหล่งผลิตนั้นๆได้ เพราะเมื่อในตลาดต้องการปริมาณที่สูง แต่การผลิตไม่สามารถผลิตได้สูงตาม ตลาดก็จะหันเหไปหาแหล่งที่ผลิตได้มากกว่า ปริมาณที่มากเพียงพอไม่เกิดปัญหาที่การผลิตไม่พอแก่ความต้องการ
อีกประการหนึ่งในเรื่องราคา หากราคาต่ำก็ได้เปรียบอีกด้วย ในภูมิภาคของเอเชียเรานี้ มีการจับเอาจระเข้มาจากแหล่งธรรมชาติเป็นจระเข้ที่เกิดขึ้นเองจากป่าดงพงไพร ไม่ได้เลี้ยงกันก็มีจากอินนีเซีย จากกัมพูชา จากเวียดนามก็มี ซึ่งเป็นจระเข้ที่ล่าเอามาจากธรรมชาติที่มีอยู่ทั้งสิ้น
จระเข้เหล่านี้จึงไม่มีมาตรฐาน ไม่มีการควบคุมคุณภาพของหนังได้เลย แตกต่างจากจระเข้เลี้ยงอย่างถูกต้องได้มาตรฐานมากมายนัก ราคาจึงไม่สูง
การตลาดที่รับซื้อจระเข้เหล่านี้จึงเอาแน่ไม่ได้ แม้จะถูกส่งออกไปสู่ตลาดบ้างก็ตาม ดูเหมือนว่าจะไม่กระทบกระเทือนกับจระเข้ไทยเราที่เลี้ยงอย่างถูกต้องได้มาตรฐานกว่า และนับวันจะเพิ่มทวีคูณยิ่งขึ้นทุกๆปี
หากจะมองเลยไปถึงจระเข้จากออสเตรียและเข้าไปที่อเมริกาซึ่งน่าจะมีอะไรที่ดีในเรื่องจระเข้ที่ส่งออก ดูปรากฏว่ายังไม่มีการผลิตจระเข้ออกมาได้ครบวงจรเช่นเดียวกัน ซึ่งอาจจะยังไม่ชำนาญหรืออาจจะยังไม่มีการส่งเสริมกันอย่างจริงจังก็ได้ เลยทำให้ไม่เป็นคู่แข่งสำคัญของประเทศไทยที่มีจระเข้เลี้ยงออกมาอย่างดีอยู่แล้ว
วงการเลี้ยงจระเข้ในเมืองไทยเราจึงถอนหายใจโล่งอย่างเต็มที่เพราะยังไม่มีคู่แข่งที่น่ากลัว เพราะประเทศไทยเราสามารถครอบครองพ่อพันธุ์แม่พันธุ์จระเข้ได้อย่างดี สสามารถผลิตเลี้ยงส่งออกสู่ตลาดโลกได้โดยไม่ต้องมีโค้วต้าจากรัฐบาล ต้องทราบด้วยว่าจระเข้ที่เลี้ยงอย่างครบวงจรมีที่บริษัท ศรีราชาฟาร์ม (เอเซีย) จำกัด แห่งเดียวเท่านั้น นับว่าเป็นวิธีการที่ให้ที่อื่นเลี้ยงจระเข้จนเจริญเติบโตได้ที่ได้ขนาดแล้ว ก็จะขายหนังให้แก่โรงฟอก แล้วขายหนังที่ฟอกแล้วให้กับผลิตภัณฑ์เครื่องหนัง ซึ่งฟาร์มแห่งนี้นั้นก็ทำได้สำเร็จเรียบร้อยครบวงจรได้ดีมาก
ประเทศไทยได้เปรียบตรงที่เป็นประเทศร้อน เลี้ยงจระเข้ได้ดี จระเข้เจริญเติบโตได้ดีมากค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงก็ไม่สูงมากอีกด้วย มากกว่าประเทศที่มีอากาศหนาวเย็น ซึ่งนับว่าประเทศไทยเป็นแหล่งเลี้ยงจระเข้ที่ได้เปรียบประเทศอื่นๆ ในการเลี้ยงจระเข้รวมไปถึงการแปรรูปอีก การตัดเย็บเครื่องหนังก็มีฝีมือยอดเยี่ยม เรียบร้อยได้มาตรฐาน การออกแบบก็ดีมาก เป็นที่ยอบรับของโลก คุณภาพสูง น่าดีใจที่บริษัท ศรีราชาฟาร์ม (เอเชีย) จำกัด มีโชว์รูมที่สวยงามในการเอาผลิตภัณฑ์ของหนังจระเข้มาแสดงให้ผู้ที่สนใจได้ชื่นชมอยู่แล้ว มีผู้ต้องการมากมาย เพราะสินค้าดี
มีการผลิตหนังประเภทคลาสสิคน้อยลงในต่างประเทศ เลยเป้นผลดีของประเทศไทยเราอีกสามารถผลิตออกได้มากยิ่งขึ้นในขนาดที่เป็นผู้นำในการผลิต ในเรื่องเครื่องหนังจระเข้แล้วในขณะนี้
ด้วยเหตุนี้เองประเทศไทยจึ้งได้รับการนำเข้าอย่างน่าพอใจทีเดียว เขาต้องการผลิตภัณฑ์ของเรา จึงขยายตลาดไปได้กว้างขวาง ดังนั้น การเลี้ยงจระเข้เพื่อเอาหนังมาผลิตเครื่องหนังทั้งหลายก็ไม่น่าจะมีปัญหาแต่ประการใด เพราะมีตลาดรองรับอยู่อีกมากมาย เพียงแต่ว่าเราจะต้องออกแบบให้เกิดความสวยงาม น่าใช้ ได้มาตรฐาน ทันสมัย ถูกใจผู้บริโภคเท่านั้นก็ดีมากแล้ว เรื่องการเลี้ยงจระเข้ เรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับจระเข้ สามารถสอบถามไปได้ที่บริษัท ศรีราชาฟาร์ม (เอเชีย) จำกัด จะเป็นข้อมูลทางวิชาการเลี้ยงจระเข้หรืออะไรก็ตามที่เกี่ยวกับจระเข้แล้ว โปรดโทร. (038) 336-101-5 ได้เสมอ
ท่านอาจจะเข้าเยี่ยมชม ศึกษาหาความรู้ในเรื่องของจระเข้ในทุกแง่มุม ไม่ว่าจะเป็นอาหารจากเนื้อจระเข้ เลี้ยงจระเข้ ความรู้เกี่ยวกับหนังจระเข้ สารพัดเรื่องของจระเข้ได้ทั้งหมด เกษตรกรที่ต้องการเลี้ยงจระเข้ ในเมื่อท่านมีทุกสิ่งทุกอย่างครบถ้วนพร้อมที่จะเลี้ยงจระเข้อยู่แล้ว น่าจะได้รับประโยชน์มากมายจากการสอบถามและศึกษาเรื่องจระเข้กับบริษัท ศรีราชาฟาร์ม (เอเชีย) จำกัด นี้ได้อย่างพอใจ